แอนิเมชันแบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ ดังนี้
แอนิเมชันรูปแบบนี้จะเน้นการใช้วิธีวาดเป็นหลักโดยแอนิเมชันที่ใช้มือวาดในยุคแรก ๆ นั้นเรียกว่า แอนิเมชันใช้แผ่นใส (cel animation) เป็นการ์ตูนแบบดั้งเดิมที่ใช้การวาดและระบายสีตัวละครต่าง ๆ รวมทั้งฉากหลัง (background) ลงบนแผ่นใส (cel) และเมื่อนำแผ่นใสแต่ละแผ่นมาซ้อนกันแล้วถ่ายภาพแผ่นใสนั้น ๆ โดยใช้กล้องถ่ายภาพที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษก็จะได้ภาพการ์ตูน ๑ ภาพ ที่ประกอบไปด้วยตัวละครและฉาก การเคลื่อนไหวของภาพเกิดจากการวาดภาพหลักแสดงอิริยาบถหลักที่เคลื่อนไหว หลังจากนั้นผู้วาดช่วงกลางจะวาดภาพระหว่างภาพหลักอีกเป็นจำนวนมากเพื่อให้การเคลื่อนไหวจากอิริยาบถหนึ่งไปยังอีกอิริยาบถหนึ่งเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ราบรื่น และไม่เกิดการกระตุก ในอดีตการวาดภาพทั้งหมดนี้ต้องวาดและลงสีโดยผู้วาดที่ชำนาญและต้องใช้เวลาในการวาดนานมาก ยกตัวอย่างเช่น ภาพยนตร์การ์ตูนความยาว ๑๐ นาที ต้องใช้ภาพวาดสำหรับบันทึกลงบนแผ่นฟิล์มทีละกรอบภาพเป็นจำนวน ๒๔ ภาพในทุก ๆ ๑ วินาที ซึ่งรวมแล้วต้องใช้ภาพถึง ๑๔,๔๐๐ ภาพ โดยทั่วไปการสร้างภาพวาดแต่ละภาพจะใช้แผ่นใสมากกว่า ๑ แผ่น ดังนั้นการวาดภาพลงบนแผ่นใสย่อมต้องใช้มากขึ้นไปอีกถ้าโดยเฉลี่ยภาพวาด ๑ ภาพต้องใช้แผ่นใสโดยเฉลี่ยประ มาณ ๓ แผ่น (แผ่นใสแต่ละแผ่นสำหรับตัวละครที่เคลื่อนไหวแต่ละตัวไม่รวมภาพฉากหลังซึ่งเป็นภาพนิ่ง) ดังนั้นผู้วาดภาพต้องวาดภาพลงบนแผ่นใสรวมทั้งสิ้น ๔๓,๒๐๐ แผ่น นอกจากแอนิเมชันใช้แผ่นใสแบบที่ใช้การวาดภาพแล้วการใช้กระดาษตัดแปะ (paper cut) โดยการตัดกระดาษเป็นภาพมาแปะลงบนแผ่นใสแทนการวาดภาพก็จัดเป็นแอนิเมชันแบบภาพสองมิติด้วยเช่นกัน
ปัจจุบันการสร้างแอนิเมชันแบบภาพสองมิติได้นำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยซึ่งจะใช้โปรแกรมที่ออกแบบมาให้ใช้ร่วมกับอุปกรณ์พิเศษเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้วาดภาพหลัก ผู้วาดภาพช่วงกลาง และผู้ลงสี เพื่อสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โปรแกรมหลัก ๆ ในการทำแอนิเมชันที่แพร่หลายในขณะนี้คือ Flash และ After effects การนำคอมพิวเตอร์มาใช้ช่วยให้การวาดการ์ตูนแบบแอนิเมชันใช้แผ่นใสทำได้สะดวกและรวดเร็วขึ้นโดยที่นักวาดการ์ตูนสามารถวาดบนแผ่นใสหรือกระดาษแล้วกราดภาพ (scan) เข้าไปในคอมพิวเตอร์ด้วยโปรแกรมกราดภาพ หรือจะวาดภาพบนคอมพิวเตอร์โดยใช้อุปกรณ์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้นักวาดการ์ตูนสามารถใช้โปรแกรมวาดภาพด้วยคอมพิวเตอร์ได้โดยตรง ส่วนวิธีการลงสีสามารถทำได้ทั้งการลงสีบนแผ่นใสหรือกระดาษแล้วกราดภาพเข้าคอมพิวเตอร์หรือการลงสีบนคอมพิวเตอร์โดยตรงผ่านอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ แต่โดยทั่วไปการสร้างการ์ตูนด้วยคอมพิวเตอร์นิยมใช้ร่วมกันทั้ง ๒ วิธี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความซับซ้อนของภาพ สำหรับภาพบางประเภทโดยเฉพาะฉากการวาดภาพฉากบนแผ่นใสหรือกระดาษย่อมได้ภาพที่สวยงามกว่าการวาดด้วยคอมพิวเตอร์อีกทั้งฉากเหล่านี้แทบจะไม่มีการเคลื่อนไหวแต่การทำให้ภาพเคลื่อนไหวเมื่อภาพหลักอยู่บนคอมพิวเตอร์แล้วสามารถทำได้สะดวกขึ้น นอกจากนี้การให้ผู้วาดภาพช่วงกลางและผู้ลงสีหลายคนทำงานพร้อม ๆ กัน สามารถทำได้ง่ายบนคอมพิวเตอร์และการตรวจสอบการเคลื่อนไหวของภาพก็ทำได้สะดวก ดังนั้นการ์ตูนแอนิเมชันใช้คอมพิวเตอร์ (computer animation) จึงได้พัฒนาไปอย่างมากจนแทบจะเรียกได้ว่าภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชันล้วนใช้คอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในการผลิตแทบทั้งสิ้น
เมื่อกล่าวถึงแอนิเมชันแบบภาพสามมิติโดยทั่วไปจะหมายถึงการสร้างการ์ตูนด้วยคอมพิวเตอร์หรือแอนิเมชันใช้คอมพิวเตอร์ อย่างไรก็ตามยังมีแอนิเมชันแบบภาพสามมิติอีกชนิดหนึ่งที่สร้างจากการปั้นแบบจำลองสามมิติด้วยดินน้ำมันหรือดินเหนียวจึงเรียกว่า แอนิเมชันแบบดินปั้น (clay animation) โดยนักปั้นจะปั้นแบบจำลองและฉากในอิริยาบถหนึ่งพร้อมทั้งระบายสีตามต้องการแล้วจึงบันทึกภาพลงบนแผ่นฟิล์มหรือระบบฟิล์มดิจิทัลหลังจากนั้นตัวแบบจำลองจะถูกปรับเปลี่ยนท่าทางซึ่งแสดงถึงการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยพร้อมทั้งทำการบันทึกการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยอย่างต่อเนื่องเมื่อนำแผ่นฟิล์มนั้นมาฉายด้วยอัตราเร็วที่เหมาะสมก็จะได้ภาพเคลื่อนไหวตามต้องการ
การสร้างแอนิเมชันแบบดินปั้นมีขั้นตอนเช่นเดียวกับแอนิเมชันใช้แผ่นใสแต่แตกต่างกันเพียงแบบจำลองแอนิเมชันใช้แผ่นใสเกิดจากการวาดภาพลงบนแผ่นใสซึ่งเป็นภาพสองมิติในขณะที่ แอนิเมชันแบบดินปั้นนั้นแบบจำลองคือรูปปั้นดินน้ำมันหรือดินเหนียวซึ่งเป็นแบบจำลองสามมิติ การนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในการสร้างแอนิเมชันแบบภาพสามมิติเป็นการประยุกต์ใช้ศาสตร์ด้านคอม พิวเตอร์กราฟิกส์ (computer graphics) ซึ่งประกอบด้วยเทคนิคย่อย ๆ อีกหลายแขนง เช่น การสร้างแบบจำลองสามมิติ (three-dimensional modelling) การให้แสง-เงา (shading) การลงลายผิวภาพ (texture mapping) การควบคุมการเคลื่อนที่ (motion control) ความพร่าเหตุเคลื่อนที่ (motion blur) การเปลี่ยนรูปและการแปลงร่าง (warping and morphing) การสร้างภาพกราฟิกส์ (rendering) และการสร้างเสียงประกอบ (sound effects)